Connect with us

ข่าว/ดูดวง/แจกเลข/ทำนายฝัน

เปิดตำนานความรัก ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน เชียงราย

Published

on

เปิดตำนานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน

ทำความรู้จัก “ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน”

บริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง มีเนื้อที่ 12 ไร่ ตั้งอยู่ท้องที่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงาน และ บริเวณขุนน้ำนางนอน มีเนื้อที่ 8 ไร่ ตั้งอยู่ท้องที่บ้านจ้อง ต.โป่งผา อ.แม่สาย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ โดยวนอุทยานถ้ำหลวงมีอาณาเขตติดต่อ คือ ทิศเหนือ จดดอยจ้องและห้วยน้ำจอง, ทิศใต้ จดดอยผู้เฒ่าและลำห้วยน้ำค้าง, ทิศตะวันออก จดบริเวณพื้นที่ราบที่อยู่ข้างๆภูเขาทั้งหมด, ทิศตะวันตก จดภูเขลูกใหญ่ซึ่งทอดมาจากชายแดนเมียนมา ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2529

ถ้ำหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ (Karst topography) ปากถ้ำเป็นห้องโถงกว้างมาก ภายในถ้ำจะพบกับความงามของ เกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอก หินย้อย ธารน้ำและถ้ำลอด อีกทั้งยังมีถ้ำเล็กๆอีก 3 แห่งในบริเวณเดียวกัน โดยภายในถ้ำมีน้ำซับตลอดทั้งปี และจะมีน้ำไหลในช่วงฤดูฝนประมาณเดือน กรกฏาคม – พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อัตรายห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปเด็ดขาด

หลักฐานทางโบราณคดี

ปากถ้ำที่สูง โถงถ้ำแรกที่เปิดกว้างระดับพื้นดินต่ำกว่าปากถ้ำมากเนื่องจากเป็นร่องทางน้ำที่ไหลออกจากถ้ำ โดยมีร่องน้ำผ่านระหว่างโถงที่ 1 และทางขวามือของร่องน้ำจะเป็นโนนดินที่สูงขึ้น มีร่องรอยหลุมยุบ และเป็นโถงที่ 2 ต่อจากโถงที่ 1 มีร่องรอยหินถล่มด้านซ้ายมือ เมื่อสิ้นสุดบันไดจากบริเวณปากถ้ำ เป็นทางเดินดินสั้น ๆ ต่อจากนั้นเป็นขั้นบันไดที่เทด้วยปูนซิเมนต์จำนวน 5-6 ขั้น ยกระดับขึ้นทอดเข้าสู่ความยาวของตัวถ้ำ โดยที่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะท่วมภายในถ้ำ และบริเวณร่องน้ำโถงที่ 1 ดังนั้น จึงไม่พบหลักฐานทางโบราณคดีภายในถ้ำ

ถ้ำหลวง มีลักษณะทางธรณีวิทยา ประกอบด้วยหินแข็งยุคคาร์บอนิเฟอรัส-เพอร์เมียน (Carboniferous-Permian: CP) หินที่พบในพื้นที่ประกอบด้วยหินปูนสีเทาอ่อน (Limestone) หินอ่อน (Marble) หินยุคนี้อยู่ในช่วงอายุประมาณ 270-320 ล้านปี ปากทางเข้าถ้ำสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 433 เมตร แนวโถงถ้ำมีโถงหลักเพียงโถงเดียว แต่เส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเดินเข้าถึงได้ง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ จนถึงเส้นทางเดินลำบาก มีความยาวรวม 759.76 เมตร เมตร และโถงแยกฝั่งตรงข้ามทางเดินเข้าถ้ำ มีความยาว 68.27 เมตร ซึ่งการสำรวจในครั้งนี้ สำรวจจนสิ้นสุดห้องลับแล เนื่องจากทางที่จะไปโถงอื่น ๆ นั้นลำบากมาก แร่ทุติยภูมิที่พบเป็นแร่แคลไซต์ (calcite) ได้แก่ หินย้อย หินงอก เสาหิน ม่านเบคอน ผลึกแร่แปรงล้างขวด หลอดโซดา และตะกอนภายในถ้ำ ได้แก่ เศษหินถล่มจากหินน้ำไหล และหินปูน ตะกอนดินเหนียว หาดทราย พบหลักฐานที่แสดงถึงวิวัฒนาการของถ้ำจำนวนมาก เช่น รอยการไหลของน้ำเป็นริ้วคลื่นปัจจุบัน (Ripple Mark) ระดับพื้นถ้ำเก่า หินถล่มขนาดเล็ก และใหญ่จำนวนมาก รอยแตกแบบมีแรงดึง (Tension Crack) นอกจากนี้ยังพบรอยระดับน้ำ หลุมยุบ และโพรงบริเวณเพดานถ้ำ (Anastomosis) และการแตกออกของผนัง

นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชมถ้ำส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีความเหมาะสมในเชิงการศึกษาวิจัย

 

เปิดตำนานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน5

พืชพรรณและสัตว์ป่า
สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ สัก เต็ง รัง เหียง พลวง ประดู่ มะค่า ตะเคียน ยอป่า และมีไม้ไผ่ขึ้นตลอดทางตามแนวลำห้วยและลำธาร สัตว์ป่าที่พบได้แก่ ช้าง เสือดาว กวาง อีเก้ง หมูป่า อีเห็น กระรอก นกกระยาง นกกะปูด พังพอน กระต่ายป่า ค้างคาว นกกระจิบจุดดำ เป็นต้น

ตำนาน เรื่องเล่าขาน

เปิดตำนาน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ความรักที่ไม่สมหวังของราชธิดาเชียงรุ้ง ที่ใช้ปิ่นปักผมฆ่าตัวตายตามคนรักที่เป็นชายเลี้ยงม้า

ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
ขุนคีรีนี่หรือคือซากรัก
หญิงอกหักธิดาสาวเจ้าเชียงรุ้ง
รักวิบัติจึงพลัดพรากหนีจากกรุง
นางหมายมุ่งมาถิ่นดินแดนไทย
ทัพบิดายกมาทันหวาดหวั่นจิต
คร่ำครวญคิดคิดถึงคนรักจักทำไฉน
คืนพม่าท่าจะม้วยด้วยอาลัย
ยอมตักษัยให้รู้อยู่เชียงราย
นางใช้ปิ่นปักผมทิ่มแทงขมับ
ชีพลาลับเลือดกระเซ็นเป็นเส้นสาย
เป็นขุนน้ำนางนอนไหลไม่ขาดคลาย
ร่างวางวายกลายเป็นเขาแสนเศร้าเอย

(อาจารย์พรชัย เขียวสาคู)

เรื่องมีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองเชียงรุ้งสิบสองปันนา มีราชธิดาองค์หนึ่งทรงพระสิริโฉมงดงามยิ่ง ทรงแอบรักกับชายเลี้ยงม้า ซึ่งเป็นการผิดกฏตามโบราณราชประเพณี แต่ด้วยความรักที่มีต่อกัน ทั้งสองได้แอบรักกันจนกระทั่ง พระราชธิดาเกิดตั้งครรภ์ เห็นจะปิดความไว้ไม่ได้อีกต่อไป จึงหลบหนีตามกันมา พระราชบิดารู้ความเกิดความอับอายที่พระราชธิดาใฝ่ต่ำ ก็ส่งทหารไล่ติดตาม

ทั้งสองระหกระเหินเดินป่า จนถึงร่มไม้ในที่ราบแห่งหนึ่งริมน้ำโขง ราชธิดาซึ่งทรงพระครรภ์ได้หลายเดือนแล้วเสด็จต่อไปไม่ไหว จึงบอกชายคนรักว่าไปต่อไม่ไหว หิว และเหนื่อยอ่อน จะรออยู่ที่นี่ ชายหนุ่มก็บอกนางว่า ให้รออยู่ที่นี้จะไปหาอาหารมาให้ อย่าเสด็จไปไหน แล้วชายหนุ่มก็เข้าป่าไปหาอาหาร

กองทหารเชียงรุ้งตามมาทัน เห็นชายเลี้ยงม้าในป่า ก็เข้าล้อมรุมฟันแทงจนตายอยู่กับที่ ฝ่ายพระราชธิดารอชายคนรักจนเย็นมืดค่ำก็ไม่เห็นกลับมา ชะแง้เก้อชะเง้อคอยอยู่นาน ก็เห็นกองทหารของพระราชบิดาออกมาจากชายป่า เข้าล้อมพระราชธิดาไว้ แล้วทูลเชิญกลับไปยังนครเชียงรุ้ง

พระราชธิดาตระหนกตกใจสังหรณ์ว่าชายคนรักจะเป็นอันตรายเสียแล้ว แต่ก็ยังแข็งใจตรัสถามทหารว่าเห็นชายหนุ่มหรือไม่ ทหารก็ทูลตอบว่า ได้ฆ่าตายเสียแล้ว

เมื่อทรงทราบดังนั้น พระราชธิดาทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ทรงกรรแสงคร่ำครวญเกลือกกลิ้งอยู่กลับพื้น ใคร่ครวญเห็นว่าคนรักก็ได้ตายจากไปแล้ว จะเสด็จกลับนครเชียงรุ้งก็คงถูกราชอาชญาสาหัส อีกทั้งทรงครรภ์กับชายเลี้ยงม้า ชาวเมืองคงจะดูแคลนไปจนตลอดพระชนม์ชีพ

เมื่อได้สติจึงตั้งสัจจะอธิษฐาน เอาความรักอันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง ดึงปิ่นที่ปักผมออกมา แทงพระขมับของพระองค์เองจนโลหิตไหลออกมาเป็นสาย สิ้นพระชนม์อยู่ตรงนั้น

สายพระโลหิตที่ได้หลั่งไหลออกมา ได้กลายมาเป็นต้นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้ ส่วนพระวรกายของพระราชธิดาที่นอนเหยียดยาวจากใต้จรดเหนือ ก็กลายเป็นดอยนางนอนจวบจนทุกวันนี้ อิตถีเพศของพระนางกลายเป็นถ้ำหลวง และส่วนของพระอุทรที่ทรงครรภ์ก็เป็นดอยตุง

ส่วนที่เป็นพระเศียรกลายเป็นดอยท่า (ปัจจุบันเรียกดอยจ้อง) พระถันกลายเป็นดอยอีกลูกหนึ่งขึ้นมา เรียกว่าดอยแม่ย่า

ในตำนานลาวจกจากพงศาวดารลาวเฉียง เล่าว่าปู่เจ้าลาวจกเทวบุตรก่ายบันได้เงินลงมาจากสวรรค์ ต่อมาได้สร้างตุงใหญ่ขึ้นปักบนดอยจึงเรียกดอยนั้นว่าดอยตุง ส่วนดอยที่เกิดจากพระถันนั้น ยอดพระถันเป็นที่อยู่ของชายาปู่เจ้าลาวจก จึงเรียกว่าดอยแม่ย่า ส่วนดอยที่เกิดจากพระเศียร เป็นดอยที่ราชโอรสปู่เจ้าลาวจกคอยพ่อ จึงเรียกว่าดอยท่า

เชื่อกันว่าดอยทั้ง 3 ในเทือกเขานางนอนนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของราชวงศ์ลาวจักราช ต้นวงศ์ของพญาเม็งราย ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมาสร้างเมืองหิรัญนครเงินยาง เหนือดอยดินแดงเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยตุง ถือเป็นปฐมธาตุแห่งแรกของล้านนาประเทศ

เปิดตำนานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน4
เปิดตำนานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน3
เปิดตำนานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน2
Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *