Connect with us

สถานที่ขอหวย

เผยแหล่ง เลขเด็ด เลขนำโชค เลขมงคล หวยแม่นๆ จากสถานที่ดัง

Published

on

แนะแหล่งโชคลาภ

“ชาวสุรินทร์นับพัน แห่ร่วมพิธีบวงสรวง ขอโซดตะเคียน ๒๐๐ ปี ที่วัดท่าลาด หลังให้โชคถูกหวยยกอำเภอ ๕ งวดติด ขณะที่ร่างทรง “หลวงปู่เสือ” ปักเลขเด็ดไว้กับกุมารเงิน คอหวยไม่พลาดนำไปเสียงโชค ด้านพ่อใหญ่เมืองสุรินทร์ เพิ่งเคยถูกหวยครั้งแรกในชีวิต หลังผ่านร้อน ผ่านหนาวมา ๖๗ ปี แม่ตะเคียนกระซิบเลขเด็ดข้างหูสาวใหญ่ ขณะขุดต้นตะเคียนขอโซดรับทรัพย์มา ๘ งวดติด งวดนี้ได้เลขเด็ด 649,64,69″

โค้งสุดท้ายก่อนการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ในงวดที่จะถึงนี้เราลองมาดูกันว่าจะมีสถานที่ใด หรือจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดที่จะให้โชคลาภ เลขเด็ด เพื่อที่จะได้นำไปเสียงโชคในงวดที่จะถึงนี้บ้าง ซึ่งจากการสำรวจดูในช่วงที่ผู้เขียนได้เดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ ทั้งทางภาคเหนือ อีสาน หรือภาคใต้มีสถานที่ให้โชคลาภอย่างมากมาย ซึ่งในฉบับนี้ผู้เขียนมีสถานที่ที่กำลังดึงดูดนักเสี่ยงโชคให้เดินทางไปรวมตัวกันได้อย่างมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงวันก่อนหวยออกเช่น ที่ผู้เขียนจะนำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้ทราบในฉบับนี้ ก็อยู่ทางภาคอีสานตอนใต้อยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ เป็นต้นตะเคียนโบราณที่มีอายุกว่า ๒๐๐ ปี ซึ่งขณะนี้มีทั้งชาวจังหวัดสุรินทร์ และจากจังหวัดทั่วไปที่ทราบข่าว รวมทั้งคอหวย พากันแห่ขอโซด จากต้นตะเคียนสองต้นนี้กันเป็นจำนวนมาก

จากที่ผู้เขียนได้ทราบมาตะเคียนสองต้นดังกล่าวนี้มีเจ้าแม่ตะเคียน ๒ นางสิงสถิตอยู่ มีนามว่า “พี่ตะเคียนเงิน”-“พี่ตะเคียนทองสร้อยเพชร” ซึ่งแม่ตะเคียนทั้ง ๒ นางนี้จะมาให้โชคลาภทกวันก่อนหวยออก โดยผ่านทางร่างทรง “หลวงปเสือ” ซึ่งจะมาทำพิธีอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจุดเทียนทำน้ำมนต์ คอหวยจะไม่พลาดส่องเลขเด็ดเพื่อหวังลุ้นโชค ซึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่จัดเก็บสองต้นตะเคียนดังกล่าวนี้อยู่ที่วัดท่าลาด บ้านหลาด หมู่ที่ ๓ ตำบลศรีณรงค์อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ถ้าท่านผู้อ่านอยากรู้ว่างวดนี้เจ้าแม่ตะเคียนจะมีเลขเด็ดอะไร ให้ได้ใช้เสียงโชคกันก็ตาม ผู้เขียน ไปดูกันครับ

บรรยากาศช่วงบ่ายวันนี้ที่ลานวัดท่าลาด บ้านท่าลาด หมู่ที่ ๓ ตำบลศรีณรงค์อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ มีชาวบ้านเดินทางมากราบไหว้สองต้นตะเคียน ได้แกพี่ตะเคียนเงิน พี่ตะเคียนทองสร้อยเพชรกันเป็นจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้ร่างทรงหลวงปู่เสือจากจังหวัดร้อยเอ็ด เดินทางมาทำพิธีถวายพานดอกไม้ รูป เทียน และสวดมนต์ เพื่ออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประทับทรงพร้อมเขียนเลขลงบนแผ่นกระดาษ ส่วนชาวบ้านที่ถูกหวย นำสิ่งของเครื่องใช้ เช่น โต๊ะเครื่องแป้ง กุมารเงิน กุมารทอง หัวหมูพร้อมจัดนางรำมารำถวาย หลังจากบนบานศาลกล่าวไว้

จากการสอบถามจากนักเสี่ยงโชคที่ได้มาร่วมพิธีรายหนึ่ง เล่าว่าตนเดินทางมาจากจังหวัดสกลนคร เพราะงวดที่ผ่านมาตนได้ดูข่าวการบวงสรวง เจ้าแม่ตะเคียนทั้งสองและได้มีการประทับทรงให้เลข ตนจึงนำตัวเลขที่แม่ตะเคียนเขียนไปเสียงโซด แล้วตนก็ถูกรางวัลในครั้งนี้ จึงได้เดินทางมาร่วมพิธีด้วย โดยจะเข้าร่วมพิธีบวงสรวงทั้ง ๒ วันคือตอนเย็นวันที่ ๑๓ และตอนเข้าวันที่ ๑๔ เสร็จแล้วจึงจะเดินทางกลับ สำหรับพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ เลขที่ร่างทรงพ่อปู่เสือให้มาก็คือ wap ya ๗๗ ๗๙ ซึ่งตนจะนำไปเสียงโชคอีกเช่นเคย สำหรับบรรยากาศภายในบริเวณวัด ได้มีบรรดาพ่อค้า-แม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้นำเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาตั้งแผงขายกันอย่างคึกคักอีกด้วย

นางสำราญ ผลหู’ วาย ๕๘ ปีชาวบ้านที่มาร่วมพิธี เล่าว่าช่วงคืนที่ผ่านมามีร่างทรงมาทำพิธีแก้บน หลังตนถูกหวยติดต่อกันมา ๔ งวด ตน และสามีจึงนำเครื่องเช่นไหว้ หัวหมู น้ำแดง นำช้างมาร่วมพิธีเช่นไหว้ เพราะเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ในหมู่บ้านจริง เนื่องจากหนุ่มขับรถแบ็กโฮนอนอยู่ริมห้วย ได้ฝันเห็นชายร่างยักษ์มนุษย์แปดศอกมานอนทับร่างจนหายใจแทบไม่ออก ต่อมาก็ขุดพบตันตะเคียนสองต้นนอนจมในห้วยท้ายหมู่บ้าน ก่อนชาวบ้านทำพิธีแห่ต้นตะเคียนมาไว้ที่วัด

นางสำราญเล่าต่อว่าช่วงดึกที่ผ่านมา ขณะร่างทรงทำพิธีแก้บนเดินวนไปมาข้างต้นตะเคียนมาทำพิธีแก้บนเจ้าแม่ตะเคียนทั้งสองตัน ครั้นเจ้าปูประจำหมู่บ้านลงมาประทับร่างทรง ได้เดินมาหาตน พร้อมกระซิบเลขงวดนี้ข้างหูว่า ๗๔๘, ๕๔๘ ซึ่งตั้งแต่ขุดพบต้นตะเคียน ตนและชาวบ้านต่างฤกหวยมา ๔ งวดติดต่อกัน และงวดวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนถูกหวยได้เงินมา ๓๕,๐๐๐ บาท

นายวีระศักดิ์ เกรียงไธสง’ อายุ ๕๘ ปี ชาวบุรีรัมย์ เล่าว่าตนมีอาชีพขายประกัน ไดฝันเกี่ยวกับต้นตะเคียน ๒๐๐ ปี วัดท่าลาดแห่งนี้ ซึ่งตนก็ได้เสียงโชคซื้อลอตเตอรี่ และถูกติดต่อกันมา ๕ งวด ได้เงินกว่า ๑ แสนบาท จึงนำเงินมาทำบุญบริจาคให้แก่ทางวัด เพื่อสร้างโบสถ์ตามแรงศรัทธา

สำหรับงวดนี้ก็เหลือเวลาอีกเพียง ๒ วันตนมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ตะเคียนที่วัดแห่งนี้ บันดาลให้โชคแก่ลูกหลานที่ศรัทธา ผู้ที่ทำบุญกุศลก็มักจะได้บุญติดตามมา

“นายเภา ศาลางาม” อายุ ๖๗ ปีอยู่บ้านเลขที่ ๙๐ หมู่ที่ ๓ บ้านท่าลาดตำบลศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ กรรมการวัดท่าลาด เล่าว่าตนรู้สึกดีใจมาก เพราะเกิดมาเพิ่งเคยถูกหวยเป็นครั้งแรกในชีวิตดีใจสุดขีด ขณะนอนบนเปลญวนที่ไต้ฤนบ้าน พอลูกสาววิ่งมาบอกว่าพ่อถูกหวยจริงๆ ได้เงิน ๖ หมื่นบาทนะ ด้วยความดีใจ ตื่นเต้น กระโดดขึ้นจากเปล พลาดท่าจนตกจากเปล ด้วยความดีใจจนลืมตัวที่ผ่านมา มีร่างทรงหลวงปู่เสือ จากจังหวัดร้อยเอ็ดเดินทางมาที่วัดเพื่อทรงแก้บน เนื่องจากชาวบ้านถูกหวยติดต่อมาเป็นงวดที่ & ตั้งแต่ที่นำต้นตะเคียนขึ้นจากห้วย แล้วนำเครื่องเซ่นไหว้ เครื่องใช้ หัวหมู น้ำแดง นำช้างมาร่วมพิธีเช่นไหว้ เพราะเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน จนเลื่องลือไปไกล

อย่างไรก็ตาม ครั้นเจ้าปู่ประจำหมู่บ้าน ลงมาประทับร่างทรงเดินวนไปมาอยู่นาน จนกระทั่งได้หยิบปากกาขึ้นมาเขียนเลขเด่น เลขเด็ด ๖๔๙, ๖o ลงบนกระดาษตั้งแต่ขุดพบต้นตะเคียน แล้วอัญเชิญมาไว้ที่วัด ชาวบ้านต่างถูกหวย ๕ งวดติดต่อกันส่วนตนถูกหวยครั้งใหญ่ในชีวิต ได้เงิน ๖ หมื่นบาท เชื่อว่าได้โชคลาภจากต้นตะเคียนซึ่งหลังจากที่เจ้าแม่ตะเคียนได้มาอยู่ที่วัดท่าลาดแห่งนี้ ทำให้มีประชาชน รวมทั้งผู้ที่มีจิตศรัทธา พากันหลังไหลเข้ามาที่วัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางคุณะกรรมการวัดท่าลาดมีมติสร้างพระอุโบสถ โดยเมื่อพฤศจกายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ผ่านมาทางวัดได้วางศิลาฤกษ์ ซึ่งขณะนี้มีผู้จิตศรัทธา ทั้งผู้ที่ประสูบใชคจากแม่ตะเคียน ทั้งจากประชาชนทั่วไปร่วมกันบริจาคเงินร่วมสร้างโบสถแล้วกว่า ๒ ล้านบาท

โดยตลอดทั้งวัน และคำคืนนี้ หลังจากต้นตะเคียนให้โชค ถูกหวยกันทั้งอำเภอชุมพลบุรี ปรากฏว่าเซียนหวยแห่เดินทางเข้ามากราบไหว้ เพื่อสองหาเลขกันอย่างคึกคัก นอกจากนี้ยังมีร่างทรงชื่อดัง ร่างทรงปู่เสือ ได้ประทับทรงเจ้าแม่ตะเคียนทั้งได้เขียนตัวเลขมงคล ประจำงวดที่จะถึงนี้แจกเป็นตัวเลข ๓ ตัวคือ ๗คะ และเลข ๒ ตัวคือ ๘๙ ซึ่งเป็นความเชื่อของแต่ละ บุคคล

ตกดึกได้มีชาวบ้านท่าลาด ต่างพากันขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน ๙๙ คัน ติดเครื่องยนต์ เร่งเครื่อง เปิดไฟหน้า พร้อมบีบแตร จำนวน ๙๙ ครั้ง เพื่อถวายให้เจ้าแม่ตะเคียน ซึ่งทางร่างทรงบอกว่าเจ้าแม่ตะเคียนจะมาให้โชคอีก จนกว่าจะสร้างโบสถ์วัดท่าลาดแห่งนี้จนแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ ยังพบภายในกระถางรูป โดยธปที่จุดบูชาเจ้าแม่ตะเคียน ๙ คอก ขี้ลูปได้ม้วนเป็นตัวเลขอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เซียนหวยต่างนำโทรศัพท์มาถ่ายไว้ เพื่อนำมาส่องดูว่าขี้กูปกี่มัวนนั้นเป็นเลขวะไร เชื่อว่าเจ้าแม่ตะเคียนมาโปรด หลังจากที่ห่างเหินมานาน ในช่วงมาตรการป้องกันโควิด ๑๙ ส่วนตัวเลขที่ปรากฎ บางคนมองเห็นเลข ๘, ๖, ๑ และ ๗ ก่อนที่จะนำมารวมกัน เพื่อนำไปเสี่ยงโชคในงวดต่อไป

“เจ้าแม่ตะเคียนสองนาง” เจ้าแม่ตะเคียน ประจำต้นตะเคียนสองตันที่มีอายุกว่า๒๐๐ ปี กำลังให้โซด ให้ลาภมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งอยู่ที่วัดท่าลาดบ้านท่าลาด หมู่ที่ ๓ ตำบลศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ กำลังมีผู้คนหลั่งไหลกันมากราบไหว้ขอโชคกันเป็นจำนวนมาก

ผู้เขียนมีโอกาสได้มาได้ทำการกราบไหว้ขอเลขเด็ดมาฝากท่านกันเช่นเคย ได้เลข ๑ และเลข ๔ มาถ้าจับชุดเลขสองตัวจะได้เลขชุดดังนี้ ๑๐-๑๔-๑๕-๑๗ และ ๔๐-๔๑-๔๓-๔๗-๔๙ ลองซื้อกันดู แต่ถ้าท่านอยากได้เลขสามตัว ให้เอาเลขไปเข้าชุดได้ ท่านอาจได้โชคจากเจ้าแม่ตะเคียนสองนางที่วัดท่าลาดได้ครับ โชคลาภอาจเกิดจากผลบุญกุศลที่แต่ละท่านสร้างทำกันมา โปรดใช้วิจารณญาณของท่านในการเสี่ยงเล่นด้วย สำหรับข้อมูลต่างๆ ที่ผู้เขียนได้นำเสนอท่าน ก็เพียงเพื่อเป็นแนวทางให้แก่ท่านจะใช้พิจารณาเสียงโชคในงวดนี้ท้ายนี้ก็ขอให้ท่านผู้อ่านจงโชคดี ประสพโชคลาภใหญ่กันทุกท่าน

Lottowin1

Lottowin1

วัดท่ากระเทียม

ช่วงก่อนหน้าที่ไวรัสโควิด ๑๙ จะระบาดหนักหน่วง จนทำเอาเศรษฐีกิจและการใช้ชีวิตประจำของผู้คนต้องปั่นป่วนไปหมดก่อนหน้านั้นผู้เขียนยังข้าไซท์งานถ่ายทำสารคดีอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เพื่อนผู้เขียนโทรศัพท์มาให้ลงมา กทม.เพราะมีธุระสำคัญ และขอให้ผู้-เขียนลางานสัก ๒-๓ วัน เขาว่าจะพาไปวัดท่ากระเทียมวัดท่ากระเทียมที่ว่านั้นอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งผู้เขียนไปอยู่ที่เมืองเพชรในช่วงปี พ.ศ.2547-2552 ไปๆ มาๆ หลายครั้ง ผ่านเส้นทางไปท่ายางนับเป็นสิบๆ หน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้แวะวัดท่ากระทียมสักครั้ง

ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยสนใจและร่วมพูดคุยในเรื่องราวของอินทรีแดง ซึ่งวัดท่ากระเทียมนี้ก็เป็นที่สำคัญ ที่ผู้เขียนยังไม่มีโอกาสได้ไปเลยผ่านมาก็ผ่านไป ผ่านไปก็ผ่านมาอยู่แบบนี้หลายครั้งแต่หาโอกาสว่างสักครั้งไม่ได้เลยจนมาวันนี้มีเพื่อนในแวดวงชวนไป ผู้เขียนก็เลยรับปาก เพราะนี่วาจจะเป็นโอกาสดีก็ได้ ที่พลาดไปหลายครั้งก็เป็นได้

เพื่อนผู้เขียนรายนี้อยู่ชมรมอนุรักษ์ภาพยนตรีไทยและชื่นชอบพระเอกในอดีต มิตรชัยบัญชาเป็นอย่างมาก เมื่อเขาเอ่ยปากชวน ผู้เขียนก็รับคำแล้วในวันสองวันนั้นผู้เขียนกับเค้าก็ปร่อไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีแล้ว เราออกเดินทางตั้งแต่เช้า ไปแวะที่หาดเจ้าสำราญไม่นาน เพื่อทานอาหารทะเล

จากนั้นเมื่อทานอาหารเสร็จก็ตีรถไปทางเส้นอำเภอบ้านลาด เพื่อมุ่งหน้าไปวัดท่ากระเทียม ซึ่งเพื่อนผู้เขียนบอกว่าเค้าอยากไปไหว้หลวงพ่อเรียนด้วย พูดถึงหลวงพ่อเรียนวัดท่ากระเทียมนั้น ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังในยุคสมัยก่อนหน้านี้ผู้คนที่เป็นศิษยานุศิษย์ได้บูชาเครื่องรางของขลังที่ท่านทำพิธีปลุกเสกอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง

สำหรับเรื่องราวของหลวงพ่อเรียนนั้น ผู้เขียนขอย่อเรื่องราวโดยสังเขปมาเป็นที่เข้าใจไว้ ณ โอกาสนี้สักเล็กน้อยหลวงพ่อเรียน หรือพระครูวิบูลญาณประยุต นามเดิมของท่านคือ เรียน นามสกุลสมัครบ คราหนึ่งท่านได้มาบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดตำหรุ อำเภอบ้านลาด ที่จังหวัดเพชรบุรีขึ้นมาใหม่ ซึ่งแต่เดิมวัดนี้เป็นวัดร้างไม่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษานานแล้ว

หลวงพ่อเรียนท่านได้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสที่นี่จนได้รับพระราชทาน สมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่พระครูวิบูลญาณประยุต เมื่อปี พ.ศ.2489ดังที่ได้บอกไปแล้วในประวัติของหลวงพ่อเรียน เรื่องวัดท่ากระเทียมนี้ เป็นวัดเก่าที่ร้างมานาน มาบูรณะปฏิสังขรณ์ในส่วนของพุทธาวาส และสังมาวาสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

โดยสร้างพระอุโบสถจากอาคารไม้เก่า เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก เมื่อราวปีพ.ศ. 2509 มีศาลาการเปรียญที่เดิมเป็นอาคารไม้ทรงไทย และหอสวดมนต์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕o๗ บูรณะก่อสร้างต่อเติมขึ้นเรื่อยๆ ในปี พ.ศ.2537 วาดารหลังนี้เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย โดยสร้างขึ้นในปีเดียวกัน

จากนั้นได้สร้างศาลาบำเพ็ญกุศลอีกหนึ่งหลัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กอีกและสร้างครัวเพิ่ม เหตุที่สร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ขึ้น เนื่องจากมีผู้มีจิตศรัทธามาทำบุญกันมากขึ้นเนื่องด้วยในวัดนี้เป็นที่เก็บอัฐิ ของมิตร ชัยบัญชา พระเอกยอดนิยม ซึ่งเคยเป็นคนที่นี่ดังนั้น จึงมีแฟนที่ชื่นชอบในตัวพระเอกผู้นี้มาทำบุญกันเป็นจำนวนมาก

วัดท่ากระเทียมนั้นมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าวัดวิบูลย์ประชสรรค์ แต่ผู้คนทั่วไปนิยมเรียกกันอย่างชื่อเดิมว่าวัดท่ากระเทียมมากกว่าในวันที่ผู้เขียนกับเพื่อนไปถึงนั้น ก่อนหน้านี้มีรถทัวร์มาลงหนึ่งคันรถใหญ่ ผู้คนคลาคล่ำลงมาเป็นจำนวนมาก ผู้เขียนและเพื่อนก็เลยต้องจำใจไปกับกลุ่มทัวร์ชุดนี้ด้วย

อาศัยว่าเพื่อนผู้เขียนรู้จักกับเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ก็เลยได้พูดคุยกันสารพัดเรื่องกับท่าน ท่านว่าเดี๋ยวนี้ผู้คนไม่ค่อยมาที่นี่กันมากเหมือนเมื่อก่อนซึ่งทางวัดนั้นพยายามหาคนเข้าวัดทำบุญเพื่ออนุโมทนาบุญส่วนหนึ่งส่งผ่านค่าปัจจัยที่ผู้คนถวายมายังวัดไปเป็นค่าเล่าเรียนให้เด็กๆ นักเรียนในอปถัมภ์ของทางวัด

นอกจากนี้ทางวัดยังได้ช่วยเหลือชาวบ้านในเรื่องที่ทางทำกิน และอย่างอื่นอีกมาก ท่านว่าท่านพยายามทำ วัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนอย่างในสมัยก่อนเพราะไม่อย่างนั้นแล้วที่ทางแถวนี้ และไม่เว้นแม้แต่วัดท่ากระเทียมเอง ก็จะถูกนายทุน ส่งคนมากว้านซื้อที่ทางไปทำอาคารพาณิชย์เสียหมด

พวกนี้เค้าไม่สนใจวัดวาอาราม…หรือที่ทางของใครหรอกโยม…โบราณสถานจะเก่าจะมีประวัติเป็นมาอย่างไรเค้าก็ไม่สน วัดท่ากระเทียมนี่ วัดถ้ารงค์นี่ก็เกือบจะถูกพวกนายทุนเส้นใหญ่ระดับประเทศมากว้านซื้อไปหมด เพราะวัดติดถนนไงล่ะ ผู้เขียนกับเพื่อนก็เลยบอกท่านว่าอย่างไรจะช่วยกันนำข่าวคราวและเขียนถึงเรื่องราวของวัดท่ากระเทียม เพื่อเชิญชวนผู้คน และพุทธศาสนิกชนมาร่วมกันทำบุญมากๆ

วันนั้นหลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านพาผู้เขียนและเพื่อนไปเที่ยวชมสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่มากมายในวัด เริ่มจากศาลบูชาพระราหูหน้าวัด พระราหูที่วัดท่ากระเทียม ผู้เขียนได้ไถ่ถามผู้คนที่มากราบไหวบชา ได้ความว่าท่านศักดิ์สิทธิ์มาก มีผู้คนมาบนบานขอนั่นนี่นุ่น ก็ล้วนได้ตามความประสงค์

มีบ้างที่เกิดวันพุธกลางคืนก็มาบูชาท่าน เอาเลข เอากำลังวันกัน ถือเป็นสิริมงคล ดังนั้นชื่อเสียงของพระราหูที่วัดท่ากระเทียมเลยกระจายไปทั่วนอกจากนี้ ภายในวัดยังมีสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ มากมายอย่างศาลาสมเด็จ หรือศาลาประชุมเทพ ที่มีเทพทั้งพระประจำวัน ประจำราศี ประจำปีนักษัตรมาประชุมพร้อมกันให้กราบด้านหลังถัดไปเป็นพระวิหาร และพระอุโบสถ เปิดให้เข้าชม สามารถไปกราบไหว้บูชา และทำบุญในส่วนนี้ได้เช่นเดียวกัน ส่วนทางเดินที่เดินไปทางด้านหลังนั้น จะพบกับสวนริมรื่น

ทางด้านหลังจะมีศาลาการเปรียญเก่า และกุฏิสงฆ์ถัดมามีร้านกล้วยไม้ ที่ชาวบ้านนำมาถวาย แต่น่าเสียดายที่ทางวัดไม่สามารถจะดูแลได้อย่างทั่วถึงเรือนกล้วยไม้นี้จึงชำรุดไปอย่างน่าเสียดายหลวงพ่อท่านว่า…ทางวัดไม่มีเงินทุนทำนุบำรุง เพราะเรือนกล้วยไม้ใช้ทุนมากในการดูแล เราจำต้องใช้เงินในส่วนที่สำคัญๆก่อน เลยจำต้องปล่อยเรือนกล้วยไม่ไว้อย่างนั้นน่ะโยม

ตรงที่ว่างระหว่างพระอุโบสถนั้นมีสถูปเก่าอยู่สามสีสถูป ของเก่าพวกนี้มีมาคู่กับวัดนานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นวัดร้าง ดังนั้น ทางวัดก็เลยอนุที่ทางของวัดท่ากระรักษ์ไว้ด้วยกันไหว้ได้ครบทียมมีพื้นที่มาก ค่อยๆ ปรับปรุงเป็นส่วนๆ ไป ทั้งหาเวลาให้ชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ ในการจัดกิจกรรมของชุมชนต่างๆ

วันนั้นผู้เขียนและเพื่อนเดิมชมในส่วนพุทธาวาส และสังฆาวาสจนสำเร็จเรียบร้อย แต่ทว่าที่วัดท่ากระเทียมยังมีของดีอยู่อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งสิ่งนั้นก็คืออนุสรณ์ของดาราดัง มิตร ชัยบัญชานั่นเอง ที่วัดแห่งนี้เป็นสถานที่เก็บอ้ฐิและมีพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ ที่ใช้จัดแสดงผลงานของพระเอกชื่อดังรายนี้ด้วย…แต่ทว่าคราวนี้เห็นที่จะไม่ทันเรื่องราวตรงนี้ ผู้เขียนเลยขอยกยอดไปในฉบับหน้าก็แล้วกันครับ

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *