ทั้งนี้ ‘แสน’ ได้นึกถึงคำสาบานที่ได้เคยให้ไว้แก่กัน จึงได้รีบวิ่งไปที่เชิงเขา แต่ก็ปรากฏว่า ‘สามมุข’ ได้ขึ้นไปบนหน้าผาแห่งนั้น และได้กระโดดลงมาจากหน้าผาเสียชีวิต เมื่อ ‘แสน’ เห็นเช่นนั้น จึงตัดสินใจกระโดดตามคนรักลงไป ชาวบ้านต่างพากันเศร้าสลดใจเป็นยิ่งนัก ต่างพากันสาปแช่ง ‘กำนันบ่าย’
หลังจากนั้น ‘กำนันบ่าย’ ได้นำถ้วยชามและสิ่งของต่างๆ มาไว้ในถ้ำตรงหน้าผาแห่งนั้น และได้ตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า ‘เขาสามมุข’ และส่วนชายหาดที่ติดกัน เขาก็ให้ชื่อว่า ‘หาดบางแสน’ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของคนทั้งสองคน จนถึงปัจจุบันนี้
ชาวบ้านพากันเล่าว่า “ตอนกลางคืนจะเห็นร่างหญิงสาวยืนอยู่ ตรงหน้าผานั้น” จึงได้ช่วยกันสร้างศาลนี้ขึ้น เพื่อเป็นที่สิงสถิตและเป็นที่เคารพสักการะแก่ชาวบ้านและชาวประมงเป็นอันมาก เมื่อเวลาจะออกทะเลไปหาปลา มักจะจุดประทัดบนบานขอให้ได้ปลากลับมาเต็มลำเรือ และอย่าได้ต้องเจอกับลมพายุ แต่เมื่อเจอลมพายุกลางทะเลแล้ว ยิ่งต้องจุดธูปบนเจ้าแม่สามมุขให้รอดปลอดภัยจากอันตรายแล้วก็สัมฤทธิผลเรื่อยมา
อย่างไรก็ตาม คนท้องถิ่นในชลบุรี ก่อนจะออกทะเลหาปลา มักจะเซ่นไหว้ศาลเจ้าแม่สามมุข ด้วยมะพร้าวอ่อน ขนมเปี๊ยะ และผลไม้ ส่วนแม่ค้านั้น จะบนบานเป็นมะพร้าวอ่อน ขนมครก ว่าว พวงมาลัย ผลไม้ ก็สัมฤทธิผลเรื่อยมา หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบนไม่ให้โดนเกณฑ์ทหาร เรื่องขายที่ดิน และเรื่องสำคัญต่างๆ มักจะบนโดยการ บนบวชก็มี หรือบนเป็ด บนไก่ หัวหมู บนหนังกลางแปลงก็มี ละครรำก็มี
ทั้งนี้ เคยมีคนที่เขาสามมุขนี้ เป็นคนที่ยากจนมาจุดธูปขอไม่ให้โดนทหารว่า “หากจับได้ใบดำ จะแก้บนโดยการเดินจาก ที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรีมากราบไหว้เจ้าแม่สามมุข” ก็สำเร็จมาแล้ว สิ่งที่บนเจ้าแม่สามมุข ที่บนควบคู่กันมากับสิ่งอื่นก็คือ “มะพร้าวอ่อน ว่าว พวงมาลัย หรือการฉายภาพยนตร์ ลิเก”