ตำนาน เรื่องลี้ลับ
เว็บหวย หวย หวยออนไลน์ ลุ้นหวย ซื้อง่าย เลขไม่มีอั้น
Published
3 ปี agoon
By
adminlekdedปาฏิหาริย์ คูณลาภ
นิตยสาร เรื่องแปลกและสิ่งนำโชค
หวยออนไลน์ 555 ตัวเลขจากแหล่งลาภนำไปเสี่ยงโชคได้ขอบอก 834 เลขดี
เปิดอกคุย
ดวง ของคนที่จะมีโชคป็นอย่งไร ถ้ดวงดีแล้วโชคลาภจะมาหาจริงหรือไม่ เรื่องนี้หาคำตอบได้ไม่ยาก เพราะบางคนควงก็ไม่ดี แต่ทำไมถึงได้รับโชคลาก นั่นเพราะได้ตัวช่วยมาช่วยให้ได้รับโชค แล้วตัวช่วยจะหได้ที่ไหน “บิ๊กสี่ย” ขอเป็นตัวช่วยทนเอง ด้วยการแนะตัวเลขที่ผ่านการคำนวณแล้วมาให้ทนเลือกจับไปเสี่ยงโชค หากท่านเลือกจับตัวเลบที่ใช่ แน่-นอนท่นต้องถูกหวยลุ้นหวยแน่ หรือท่นจะเลือกรับสมัครตัวเลขจกแหล่งวงในก็ได้ ท่นจะได้ตัวเลขที่น่จะชัวร์มาให้ทนเลือกล่น โอกาสของก่นจะมีมากขึ้น ท่นจะถูกหวยในแบบที่ท่านคาดไม่ถึงได้ หากท่านเลือกจับตัวเลขที่น่จะมไปเสี่ยงโชค ท่นอาจได้รับโชก ถูกลุ้นหวยในงวดนี้ได้ขอให้ท่านโชคดีในการเสี่ยงเล่นนะครับ เว็บหวย หวยออนไลน์ หวย
ตำนานแม่มดเบลล์ การกลับมาของแม่มดเบลล์ ในศตวรรษที่ 20
ตำนานแม่มดเบลล์
การกลับมาของแม่มตเบลล์ในศตวรรษที่ ๒๐” หวยออนไลน์ ตำนานที่กล่าวถึงแม่มดเบลล์ ระบุว่านางเคยลั่นวาจาไว้ว่า “จะกลับมา” โดยกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ในช่วงศต-วรรษที่ ๑๙ ตอนนั้นมีคนจำนวนหนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นจริง ในขณะที่คนอีกหลายส่วน คิดว่านั่นเป็นเรื่องของตำนานไม่ต้องไปใส่ใจอะไรมากก็ได้ ลุ้นหวย
แต่แล้วเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ ๒๐ หวย ดูเหมือนว่ามีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็น “การกลับมา” ของแม่มดเบลล์หลายครั้งต่างกรรมต่างวาระกัน แต่ละเรื่องก็ได้รับการบันทึกเอาไว้ด้วยก่อนที่จะมีการนำเสนอสู่สังคมด้วยรูปแบบของเรื่องที่ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร หรือในรูปแบบหนังสือพีอกเก็ตบุ๊ค เมื่อโลกมีวิวัฒนาการทางด้านเทค-ในไลยีมากขึ้น เรื่องของแม่มดเบลล์ก็ได้รับถ่ายถ่ายทอดเพิ่มเติม ลุ้นหวย
ในรูปแบบของสารคดี หรือรายการที่วีต่างๆ เว็บหวย
เท่ากับว่าแม่มดเบลล์ได้หวนกลับมาสู่สังคมอีกครั้งทั้งจากการมาสัมผัสกับสังคมหรือบุคคลบางกลุ่ม รวมทั้งมีคนจำนวนมากที่เดินหน้าเข้าไปพิสูจน์ความมีตัวตนของแม่มดเบลล์ถึงท้องถิ่นก็มี ทำให้ได้รับรู้ว่าทุกวันนี้เรื่องของแม่มดเบลล์ก็ยังเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจอย่างมากบทนี้ยังเป็นเรื่องของความต่อ-เนื่องในเรื่องการมาปรากฎโฉมของแม่มดูเบลล์ในช่วงศตวรรษที่ ๒๐ ซึ่งก็มีเหตุการณ์ต่างๆ ทีน่าสนใจและน่าจดจำไม่น้อย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่มีการบันทึกเอาไว้โดยคนอเมริกันเป็นหลัก ส่วนจะน่สนใจและสยองกันมากน้อยเพียงใดนั้น…ต้องติดตาม เว็บหวย
เรื่องราวที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือคราวที่มีทหารจากค่ายแคมป์เบลล์ (Fort Campbell)จำนวน ๕ นาย ได้เดินทางไปเที่ยว และค้างแรมกันที่พื้นที่ของถ้ำแม่มดูเบลล์ แหล่งข่าวไม่ได้แจ้งว่าพวกเขาไปเพื่อไปทำกิจกรรมแบบ ‘ท้าผี’ หรือไม่แต่บรรดาทหารหนุ่มที่เดินทางไป ณ จุดนั้นในช่วงปีค.ศ.๑๙๗๗ ล้วนเป็นทหารที่มีความมั่นใจสูง ผ่านหลักสูตรการรบเข้มขั้นกันมา จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะไม่กลัวอะไร ซึ่งนั่นก็เป็นลักษณะเฉพาะตัวของทหารที่มีประสบการณ์ หวย
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาต้องจดจำไปตลอดกาล ก็คือมีทหารในกลุ่มคนหนึ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเกินลิมิตและได้เอ่ยปากวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องตำนานแม่มดเบลล์ที่บริเวณปากถ้ำแม่มดอย่างออกรส แมว่าเพื่อนๆ ในกลุ่มจะห้ามปรามเพียงใดเขาก็ไม่ฟัง ทั้งยังวิจารณ์หนักข้อขึ้นไปอีกขณะที่ทุกคนกำลังหาทางทำให้เพื่อนปากมากหยุดพูดอะไรที่สุ่มเสี่ยงเสียที เพราะมาวิพากษ์วิจารณ์กันถึงถิ่น ชนิด เว็บหวย
หยามหน้าแม่มดกันชัดๆ แบบนั้นย่อมไม่สมควร ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อ จู่ๆทหารจอมวิจารณ์นายนั้นก็ตาเหลือก ลิ้นจุกปากและมีที่ท่าว่าจะหายใจไม่ออกตอนนั้น ลักษณะเขาเหมือนคนโดนรวบจากเบื้องหลังมาที่หน้าอก และก่อนที่จะสิ้นลมไปจริงๆนั้นก็มีทหารนายหนึ่งตะโกน “ขอโทษ” แม่มดเบลล์ไปดังๆ พร้อมกับกล่าวว่าเขาขอโทษแทนเพื่อนที่พูดจาล่วงเกิน เว็บหวย หวยออนไลน์
จากนั้นอการของทหารผู้นั้นก็ค่อยๆ ทุเลา ตาที่เหลือกค้างเลื่อนลอยก็เริ่มดูเป็นปกติเป็นเหตุที่ทำให้คืนนั้นพวกเขาต้องรีบแจ้งให้เพื่อนในค่ายทหารมารับตัวไปดูอาการกันที่ในค่ายนั่นคือเหตุการณ์ที่ทำให้ทหารเหล่านั้นรับรู้ถึงการมีตัวตนของแม่มดเบลล์มากขึ้นไปอีกเรื่องถัดไปเป็นเรื่องของคนกล้าสองคนจากหนังสือ-พิมพ์ท้องถิ่นที่มีชื่อว่า “เดอะเทนเนสเซียน” (The Tennessean)หรือ “ซาวเทนเนสซี” และเป็น เว็บหวย
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.๑๙๘อโดยผู้กล้าคนที่หนึ่งชื่อว่า เดวิดจาร์ราด (David Jarard) เขาทำหน้า หวย ที่เป็นนักเขียนในสำนักพิมพ์ ส่วนอีกคนก็คือ บิล วิลสัน (BillWison) ซึ่งทำหน้ที่เป็นช่างภาพบิลนั้นยังมีความสามารถในเรื่องของการดูถ้ำหรือที่เรียกว่ Speleobgc๗ ดังนั้น เขาจึงมีทักษะสูงในการวิเคราะห์ลักษณะภาพรวมโครงสร้าง ประวัติ คุณสมบัติและรูปแบบชีวิตของถ้ำเป็นอย่างมาก อีกทั้งการที่เขาเป็นสมาชิกของ National Speleological หรือ ลุ้นหวย“สมาคมดูถ้ำวิทยาแห่งชาติ”ด้วย จึงไม่มีอะไรต้อง สงสัยใความสามารถของบิล หากจะพาใครสักคนไปสำรวจถ้ำ หวย คนทั้งคู่เลือกที่จะไปสำรวจถ้ำแม่มดเบลล์ พร้อมกันนั้นก็เตรียมเอาข้อมูลที่ได้มา เพื่อเอามาเขียนลงหนังสือพิมพ์ด้วยดูเหมือนสิ่งที่พวกเขากำลังจะทำนั้นเป็นครั้งแรกๆ ที่มีคนกล้าจะทำอะไรแบบนั้น และที่ต้องบอกว่ากล้ามาก ก็เพราะว่าพวกเขาต้องการที่จะ ‘ค้างคืนในถ้ำ’ โดยได้ขออนุญาตอย่างเป็นทางการด้วยขณะที่อยู่ในห้องแรกของถ้ำ (ในถ้ำจะเรียกส่วนต่างๆว่าห้อง) ทั้งสองก็ได้ยินเสียงที่อยู่ลึกเข้าไป โดยที่เสียงนั้นเป็นเสียงคล้ายๆ มีคนอยู่ในถ้ำ และเดวิดประเมินว่าตันเสียงคงอยู่ลึกเข้าไปราวๆ ๓๐ หลา (ราว๒๗ เมตร) ขณะที่กำลังไตร่ตรองว่ามันเป็นเสียงอะไรนั้น ต่อมาก็เกิดมีเสียงกรีดร้องออกมาคล้ายคนที่ไม่พอใจ เว็บหวย
แรกๆ นั้นเสียงที่ว่า หวย ยังไม่ดังเห่ไหร่ แต่พอกำลังตั้งใจฟังมากขึ้น…หวยออนไลน์ เสียงกรีดนั้นก็เริ่มดังมากขึ้น ลุ้นหวย และดังต่อเนื่องจนดูเหมือนมีคนอยู่ห่างออกไปไม่เท่าไหร่ และคนๆ นั้นกำลังกรีดเสียงตะโกนใส่ถ้ำให้เกิดเสียงสะท้อนก้องมากขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนเหตุการณ์เริ่มจะไม่เข้าท่าเสียแล้ว จากนั้นเสียงก็เงียบไปสองหนุ่มมองหน้ากันราวกับกำลังคิดว่าจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง ยังไม่ทันที่จะได้ปรึกษากัน จู่ๆเสียงกรีดร้องครั้งที่สามก็ดังก้องขึ้น คราวนี้มันดังหนักหน่วงกว่าสองครั้งแรกจนทำให้ทั้งสองถอยร่นไปจนถึงปาก ทางเข้าถ้ำและยืนลังเลกันอยู่ตรงนั้น เว็บหวย
ช่วงที่อยู่หน้าถ้ำ ทั้งคู่ปรึกษากัน ก่อนจะเตรียมอุป-กรณ์ ฉายไฟแบบมีสายโยง ลุ้นหวย จากเครื่องกำเนิดไฟ เพื่อเดินย้อนกลับไปดูสาเหตุของการเกิดเสียงตอนนั้นพวกเขาพยายามตั้งสติกันอยู่อีกรอบ ก่อนจะค่อยๆ เดินกลับไปยังจุดที่เป็นห้องแรกของถ้ำอีกครั้ง ระหว่างที่กำลังจะเดินลึกเข้าไป พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังกึกก้องขึ้นที่บริเวณใกล้ปากทางเข้าถ้ำ เว็บหวย
ทั้งเดวิดและบิลจึงเดินกลับไปที่ปากทางเข้าและออกไปดูที่นอกถ้ำก็เห็นเครื่องบินไอพ่นลำหนึ่งบินผ่านไป หวยออนไลน์ และมันก็คือที่มาของเสียงกระหึ่มหน้าถ้ำระหว่างนั้นพวกเขาก็เดินกันไปเรื่อยๆ กระทั่งไปถึงบริเวณหน้าประตูใหญ่ของพื้นที่ และขณะที่กำลังมองท้องฟ้ากันอยู่นั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังสนั่นออกมาจากในถ้ำ เสียงนั้นน่าจะเป็นสัญ-ญาณเตือนครั้งสุดท้าย หวย ที่ทำให้สองหนุ่มไม่คิดจะกลับไปสำรวจหรือค้างคืนที่ในถ้ำนั้นอีกต่อไปปรากฏว่าต้องเลิกล้มแผนทั้งหมดและก็นำเอาประสบการณ์ที่ได้พบเจอในคืนนั้นเอาไปตีพิมพ์ ทำให้คนรับรู้ถึงความเฮี้ยนของถ้ำแม่-มดเบลล์กันมากขึ้นไปอีก เว็บหวย
เรื่องน่าฉงนเรื่องถัดไปเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.๑๙๖๗โดยตอนนั้น หวยออนไลน์ ผู้ประสบเหตุก็คือเอช ซี แซนเอร์ส (H C. Sanders)ซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเขาเล่าว่า…ช่วงเวลากลางคืนนั้นเป็นเวลาที่เขาขับรถมาใกล้ๆ กับจุดตัดระหว่างแม่น้ำ เรดริเวอร์(Red River) ซึ่งตัดกับถนนที่ผ่านหน้าถ้ำแม่มดเบลด์อยู่ดีๆ ก็เกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน…โดยที่รถของเขามีอาการเครื่องดับ และเมื่อเซ็กทุกอย่าง แล้วก็มั่นใจว่าน้ำมันหมด ลุ้นหวย
แน่นอน เพราะลูกลอยในแท็งก์น้ำมันของรถเสียมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ซ่อม ทำให้ไม่สามารถเช็คจาก หน้าปัดรถได้และส่งผลให้เขาอยู่ในสภาพน้ำมันหมดดังกล่าว เว็บหวย ลุ้นหวย
แซนเดอร์สตัดสินใจเดินเข้าเมืองระหว่างที่กำลังเดินจำอ้าว ลุ้นหวย ไปตามถนนอยู่นั้น เขาก็สังเกตเห็นว่ามีกระต่ายตัวหนึ่งกระใจนออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางและกระโดดบ้าง วิ่งบ้างตามเขามา เมื่อเขาหันกลับไปมองก็พบว่ามันยังคงตามเขามาอย่างไม่ลดละ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก ทำให้แซนเดอร์สรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว ลุ้นหวย
เขาเร่งฝีเท้าขึ้น หวยออนไลน์ แต่กระต่ายตัวนั้นก็ยังตามมาโดยทิ้งระยะห่างเท่าเดิม ลุ้นหวย หันไปมองที่ไรก็ใจหายทุกครั้ง…ต่อมาแซนเดอร์สไม่เร่งเดินเร็วแล้ว เขาตัด-สินใจวิ่งเลย ครั้งนั้นทำให้เขาวิ่งเร็วสุดชีวิตอย่างต่อเนื่องเป็นระยะหางราวๆ สักหนึ่งไมล์หรือเกือบสองกิโลเมตร จนทำให้เขาเหนื่อยแทบขาดใจ สุดท้ายแซนเดอร์สวิ่ง เว็บหวย
ไม่ไหวแล้ว เขาเดินไปที่ขอนไม้ล้มข้างทาง และนั่งพักเหนื่อยพร้อมหายใจเข้าออกยาวๆ ระหว่างนั้นกระต่ายตัวนั้นก็กระโดดขึ้นที่ปลายอีกค้นของขอนไม้มันมองมาที่เขา ซึ่งต่างฝ่ายต่างจ้องตากันเขม็ง และท้ายที่สุด…กระต่ายนั้นก็พูดว่า “เมื่อกี้เราวิ่งแข่งกันสนุกน่าดูใช่มั้ย?” เว็บหวย
คงไม่ต้องสงสัยว่า…แซนเดอร์สจะเลิกพักเหนื่อยแล้ววิ่งต่อหรือไม่…แน่นอนว่าเขาไม่ลืมคืนนั้นไปตลอุดชีวิต
นอกจากเรื่องดังกล่าวที่พูดถึงในย่อหน้าก่อนๆ แล้วปัจจุบันนี้ หมายถึงยุคศตวรรษที่ ๒๑ ณ วันที่ผู้อ่านกำลังอ่านตันฉบับนี้อยู่เรื่องราวความเอี้ยนต่างๆ ของแม่มดเบลล์ก็ยังคงสิงสถิตอยู่ ณ จุดที่นางเคยมีความผูกพันไม่เสื่อมคลาย อาจจะเป็นไปได้ว่านางไม่ได้หายไปไหนอีกแล้ว ลุ้นหวย
มีเสียงร่ำลือกันอยู่ตลอดว่า ไม่ว่าจะเป็นช่วงค่ำคืนหรือกลางวันก็แล้วแต่ ปอยดรั้งที่ผู้ที่มาเยือนสถานที่ที่เคยผูกพันกับแม่มดเบลล์ที่กระท่อมของครอบครัวเบลล์ มักจะได้ยินเสียงคนคุยกันตามจุดต่างๆ ของตัวบ้านเสมอ ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่พื้นที่นอกตัวบ้านตามต้นไม้ พุ่มไม้หรือตามรั้วบ้าน หรือบริเวณถ้ำ
ก็จะมีเสียงคนพูดกัน หวย เมื่อหันไปดูรอบๆ ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ เป็นไปได้ว่า “การส่งเสียงโดยที่ไม่ต้องให้เห็นตัว” หวยออนไลน์ เป็นงานถนัดของแม่มดูเบลล์ เว็บหวย
นั่นคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องเตรียมใจเอาไว้ก่อน ว่าอาจจะได้พบเจอเข้าให้ ลุ้นหวย
ไม่เพียงเท่านั้น เสียงของเด็กๆ ที่เล่นกันสนุกสนานจนทำให้ใครบางคนต้องชะเง้อมองและคิดไปว่ามี หวยออนไลน์ โรงเรียนหรือบ้านเรือนใครที่มีเด็กๆ มาตั้งอยู่ในพื้นที่นั้น เรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าที่กำลังคิดอยู่นั้น ‘คิดผิด’ จริงๆเพราะฟื้นที่บริเวณรอบๆ บ้านตระกูลเบลล์และถ้ำแม่มดเบลล์นั้นเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ของเมือง และทางหน่วยงานก็ไม่อนุมัติให้ใครมาตั้งบ้านเรือนหรือโรงเรียนในพื้นที่ดังกล่าวเด็ดขาดเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเสียงเล่น เสียงหัวเราะและการหลอกล้อกันของเด็กๆ นั้นมาจากไหนกันแน่หากจะมองว่าน่าจะมีเด็กๆ มาตั้งแคมป์กับทางโรง-เรียนก็ไม่นจะเป็นไปได้ เพราะร้า กันอยู่วพื้นที่นั้นไมใช่พื้นที่สำหรับสันทนาการ และถ้าเปิดให้เด็กๆ เข้าไปพักแรมได้จริงๆก็คงไม่มีเด็กๆ คนไหนคิดอยากสนุกในพื้นที่สยองๆ แบบนั้น ลุ้นหวย
รวมทั้งผู้ปกครองก็คงไม่เห็นดีกับการค้างคืนตั้งแคมป์แน่ๆ ดังนั้นย่อมไม่มีเสียงเด็กๆ มาสนุก-สนานกันในพื้นที่แน่นอน ลุ้นหวย หวยออนไลน์
เรื่องน่าสยองถัดไปคือเรื่องของดวงไฟมากมายยามค่ำคืนคืนที่ลอยไปลอยมาหวยออนไลน์ในพื้นที่ฟาร์มของแม่มดเบลล์ และบางส่วนก็เลยไปจนถึงพื้นที่ถ้ำแม่มดเบลล์ด้วย มันคืออะไรกันแน่…กล่าวกันว่า แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใคร ให้คำตอบได้ว่าแสงเทียนหรือแสงไฟยามดึกที่จับกลุ่มกันเป็นขบวนหรือลอยไปมานั้นเป็นอะไรความน่ฉงนก็คือพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ไปแล้ว การจะเข้าไปสำรวจหรือ ลุ้นหวย ค้างคืนใดๆ ต้องได้รับอนุญาต
วิญญาณเพื่อนเก่าให้ลาภ
ลุ้นหวย เรื่องเล่ผ่านคุณหนุ่มชายอายุ ๔๐ ปิ ตัวคุณหนุ่มมีที่ดินมีที่ดินจำ-ไร่ อยู่ในเขตอำเภอห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรีคุณหนุ่มเล่าว่า…เขาอยากใช้ผืนดินดังกล่าวเพื่อเปิดฟาร์มนกกระจอกเทศ จากนั้นเมื่อวันหยุดในเดือนสิงหาคม๒๕๓ เขาตัดสินใจขับรถมากับน้องชาย เพื่อไปศึกษาดูงานของจริงที่ฟาร์มนกกระจอกเทศในเขตเทศบาลตำบลสำรอง อำ-เภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรีโดยคุณหนุ่มพูดคุยไปเรื่อยๆ หวยออนไลน์
“เย็นวันนั้น กว่าจะรู้ตัวว่ากลับไม่ทัน และเหนื่อยมากด้วย ผมตัดสินใจเปิดห้องพักรีสอร์ทที่อยู่ไม่ไกลนัก ระหว่างที่อาบน้ำเพลินๆ ใจหนึ่งก็คิดถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่งชื่อไก๋ เราเคยเรียนวิทยาลัยเทคนิคกาญจน์ หวยออนไลน์
สาขาช่างยนต์มาด้วยกัน ส่วนเจ้าไก๋คนนี้เขามีบ้านอยู่ในตลาดสำรอง…เราสองคนไม่มีโอกาสเจอกันมาหลายปี…ความตั้งใจของผม พรุ่งนี้ก่อนกลับจะต้องแวะไปเยี่ยมมันให้ได้ สำหรับเจ้าโก๋คนนี้ เขาเป็นลูกคนจีน มีฐา-นะ มันเป็นคนที่พูดน้อย ไม่สุง-สิงกับใคร แต่ชอบกินเหล้า ส่วนแม่กับเตียไม่กล้าบ่น เพราะเจ้าไก๋เคาเรียนดี เรียนเก่ง เสียอย่างเดียวคือเรื่องดื่ม และสูบบุหรี่จัดแต่เรื่องอื่นเพื่อนไม่เอาครับ
ต่อมาช่วงสามทุ่ม น้องชายของผมที่มาด้วยกัน ขออนุ-ญาตออกไปหาอะไรกินรอบดึกขากลับหิ้วเบียร์กลับมาดื่มต่อผมดื่มเบียร์เป็นเพื่อนน้องชายสองแก้วก็หลับกระทั่งตื่นมาอีกครั้งถ้าจำไม่ผิดเหมือนมีเสียงเรียกที่หน้าห้องพัก เรียก “หนุ่ม หนุ่ม”ตอนแรกคิดว่าน้องชายเรียกผมแต่พอหันไปดูอีกเตียง อ้าว…มันมันหลับนี่? หวยออนไลน์
ผมเหลือบมองนาฬิกาเสียงเรียกหนุ่ม…หนุ่ม…ดังอยู่อย่างนั้น ‘ตีหนึ่งแล้ว ใครวะมาเรียกชื่อเรา?’
แค่ผมคิดเท่านั้น เสียงพูดมาเลย “เฮ้ย…โก เอง เพื่อน”ผมผลุนผลันลุกจากที่นอนทันที ใจหนึ่งแอบคิด “มิน่าเล่า…เสียงคุ้นๆ””รู้ว่าเพื่อนมาสำรอง…เลยแวะมาหา!” โก๋บอกตอนนั้นผมไม่คิดอะไรรีบเดินไปเปิดประตูทันที่ และเมื่อเห็นหน้าไก๋ ต้องยอมรับ…ใบหน้าเค้าขาวผ่องมาก เหมือนคนไม่เคยออกจากบ้าน คือขาวเป็นกระดาษจริงๆ ครับ” ผมกับโกโผกอดกัน…เนื้อตัวมันเย็นเฉียบ เมื่อถามสารทุกข์สุกดิบ
“รู้ได้ไงเพื่อนอยู่ที่นี่”ได้ตอบว่า เค้าเห็นผมแวบๆ เมื่อช่วงหัวค่ำ พอรู้ว่าใช่แน่ๆ จึงแวะมาหา แต่เพื่อนมาหาเสียดึกเลยผมคิด…แต่เราก็นั่งดื่มเบียร์กันในห้องพักหมดไป ๓ ขวด ที่น้องชายแซ่ไว้ครั้นพอผมเอ่ยปากจะพาไปกินข้าวต้มกันต่อ โก๋บอกผมว่า “แค่นี้ผมก็เหนื่อยแย่แล้วหนุ่ม” เค้าพูดเพราะเสมอ ก่อน
ขอตัวกลับ ไม่มีเสียงสตาร์ทรถหายเงียบไปเฉยๆ”คุณหนุ่มเกาหัวแกร่กๆ
“ตกเช้าวันถัดมา ผมนอนตื่นสาย ได้ยินเสียงน้องชายพูดเข้าหู”อะไรวะหนุ่ม กินเบียร์คนเดียวหมดเลย”
ผมงัวเงียบอก “อะไรวะน้ำ พี่กินเบียร์สองคนกับใกเพื่อนเก่าพี่”แล้วน้องชายก็พูด “พี่หนุ่มนี่ไปกันใหญ่แล้ว เมื่อคืนผมลืมตาตื่น เห็นพี่หนุ่มนั่งกินเบียร์ และพูดเองเออเองอยู่คนเดียว” น้องชายคิดว่าผมนอนไม่
หลับ ประมาณนี้ครับพี่””คราวนี้เราก็คิด เอ..เมื่อคืน หากโกไม่มาจริง หรือว่าผมอาจละเมอ…คิดแล้วก็รีบแต่งตัวไปเก็บเอกสารการอบรมทฟาร์มนกกระจอกเทศก่อน และทิ้งน้องชายไว้ที่นั่น หวย
เมื่อผมขับรถวนตลาดสำรองถึงสองรอบ ปรากฏว่าไม่เจอบ้านเพื่อน เพราะบ้านไม้คนจีนที่กว้างขวางเมื่อหลายปีก่อนตอนนี้เป็นตึกแถวเรียงกัน ๘ห้อง เมื่อผมถามกับคนที่มาอยู่อาศัย”บ้านหลังเดิมบริเวณ
ตึกนี้…เขาย้ายไปอยู่ที่ใหนล่ะครับ?”และมีลุงแก่ๆ ออกมาคุย บอกเค้าเป็นอาแท้ๆ ของใกตอนนี้พ่อแม่ของไก่ได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนโก๋นั้นอยู่ตึกในห้องที่สองถัดไป อยู่ที่ชั้นสาม ซึ่งตึกทั้ง ๘ หลังนี้แบ่งตามลัดส่วนของพินัยกรรม โดยตัวของโก๋มีสิทธิ์อยู่ใด้ ๑ คูหา
“ถ้าอยากขึ้นไปดูโก๋…เดี๋ยวฉันจะให้แม่บ้านพาขึ้นไป”พอคุณอาพูดอย่างนี้ใจผมกระตุกเลย ทำไมต้องให้
แม่บ้านพาขึ้นไป?ยังไม่ทันพูดคุยอะไรต่อแม่บ้านก็พยักหน้า เรียกผมให้เดินตามไปตลอดทางเดิน ขั้นหนึ่งขั้นสอง ขึ้นบันได ผมตั้งคำถามกับคุณป้าแม่บ้าน “ไก๋เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” เรอนิ่งไม่ตอบทว่าเมื่อผมบ่นให้แม่บ้านฟัง
“เมื่อคืนไก๋ยังมานั่งดื่มเบียร์กับผมที่รีสอร์ท บทจะมาก็โผล่มา บทจะไปก็หายไปดื้อๆ”แม่บ้านพาผมมาหยุดที่หน้ากระจกทึบ”คุณโก เธอคงอยากดื่มเบียร์ ถึงแวะไปหาคุณ” และไม่พูดเปล่า จากนั้นได้ผลักประตูกระจกทึบเข้าไปคุณหนุ่มอึ้งเงียบอยู่พักใหญ่”แค่ชะเง้อหน้าเข้าไปดู ผมถึงกับก้าวขาไม่ออก หมแรง! เพราะภาพที่อยู่ตรงหน้าคือไก๋นอนด้วยเครื่องช่วยหายใจเจาะคอ มีสายระโยงระยางไปทั่วตัว ส่วนผิวนั้นขาวซีดเหมือนกระดาษ ขาวเหมือนที่ผมทักไว้ในใจเมื่อคืน
แม่บ้านได้เล่าว่า…โกเพื่อนผมนั้น จากที่ดื่มเหล้า สบบุหรี่จัด ทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
“ครอบครัวของโก๋ พอสิ้นเตื่ย ปีพ.ศ.๕๗ ปีพ.ศ.๕๘แม่ก็ตายตาม เมื่อไม่มีคนควบคุม ไก๋ก็เอาแต่ดื่ม ดื่มทั้งวัน จนวันที่จะน็อก ก็ล้มนอนเหยียดที่กลางบ้าน และไม่รู้สึกตัวเลยตั้งแต่วันนั้น” แม่บ้านเล่า”ถ้าไม่มีเงิน ป่านนี้โก๋คงไม่อยู่แล้ว ส่วนอาคนเมื่อครู่นี้เมื่อได้รับมรดกตกทอด เค้าได้ดูแลโกเป็นอย่างดี ทุกวันสองวันจะมีพยาบาลมาทำความสะอาดเนื้อตัว เครื่องช่วยหายใจอะไรต่อมิอะไร ทำความสะอาดหมด
แต่ป้าว่าจริงๆ โก๋เคาคงไม่อยู่แล้ว พูดง่ายๆ เหมือนวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว ที่วงเหล้าในกลุ่มเพื่อนฝูงเค้าเจอกันบ่อย..บางทีมาเห็นแค่มือขาวๆ คว้าแก้วเหล้าไปดื่ม เจอจนไม่กลัวกันแล้วค่ะ!”
ฟังคุณแม่บ้านพูด ผมนี่ช็อกจนน้ำตไหล ซึ่งเมื่อคืนนี้ผมไม่ได้เมาหรืออะไร เมื่อเห็นใด้เข้ามา ผมเป็นคนเปิดเบียร์ รินเบียร์ให้ไก๋กับมือตัวเอง พอคุยกัน เค้าได้แต่ตอบ…ครับ…ครับแต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะปกติเค้าเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วหากจะสะกิดใจตรงที่เนื้อตัว หนตาของโก๋นั้นขาวซีดเมื่อผมเปิดประตูห้องไปรับเค้าพอแสงจันทร์สาดเข้ามา เพื่อนเหมือนมาแต่ร่างจริงๆ เหมือนหุ่นยนต์! ครั้นพอสัมผัสมือ ไดกอด เนื้อตัวเพื่อนนั้นเย็นเฉียบแต่เรื่องกิน เรื่องอยู่เค้าก็ดื่มกินตามปกติครับ”
คุณหนุ่มพูดไปหัวเราะเบาๆ ไป ดูเศร้าใจมากกว่า ตอมาเขาเล่าว่าได้ย้อนกับคุณแม่บ้านไปว่า ทำไมถึงต้องยื้อร่างเพื่อนเขาด้วยวิธีนี้ ทำไมถึงไม่ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งคำตอบที่ได้นั้นคือเป็นข้อตกลงของคนในบ้าน เรื่องอย่างนี้คุณป้าเธอไม่อยากจะยุ่งเกี่ยว”ก่อนเดินทางกลับ ผมกระซิบบอกเพื่อนเอาบุญดีกว่านะเพื่อน เดี๋ยวเช้านี้จะไปทำบุญให้ เพื่อนคงนอนนิ่งไม่ไหวติงเช้าวันนั้นผมได้ไปถวายเครื่องลังฆทานที่วัดใกล้บ้านเพื่อนนั่นล่ะครับ คือวัดสำรอง อุทิศให้กับเพื่อนใดยตรง ไม่อยากให้เขามายึดติดกับร่าง อยากให้เพื่อนไปสบายๆ แต่ก็นั่นล่ะครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับครอบครัวเพื่อน”
จบจากเหตุการณ์นี้ไปก็หลายวันอยู่ครับ จู่ๆ คืนหนึ่งผมได้ฝันถึงโก๋ ฝัน…ฝันว่าเค้านั่งดื่มเหล้าที่หน้าบ้านหลังเก่า สบบุหรี่อย่างสบายอารมณ์ ส่วนป้ายบ้านเลขที่บนหัวเพื่อนนั้นคือเลข ๙๙ ซึ่งตัวเลขนี้มันจุดจำติดหูติดตาครับ จนถึงวันหวยออก ผมตระเวนหาดูเลข ๙ร๗ ทุกแผงไม่มีครับ กระทั่งมาถึงแผงเจ๊หงษ์ที่หน้าร้านทอง แกก็บอกลอต-ตอรี่เลข ๙๗, ๙๘, ๙๙ นั้นไม่มแล้ว แต่เจ๊หงษ์มีเบอร์ทองหนัก๑ บาทเหลือใบละ ๕๐๐ บาทเลข ๙๙๗ ยังเหลืออยู่ ส่วนกฎ-เกณฑ์คือเลขต้องถูก ๓ ตัวบนตรงๆ เมื่อถูก ๓ ตัวตรงจะได้รับทองคำหนัก ๑ บาท ผมจึงซื้อเบอร์ทองของ เจ๊หงษ์ไว้ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่คิดอะไร
ตะเคียนสองพี่น้องเจ้าแม่ตะเคียนให้โชค ให้ลาภ ต่อเนื่องยาวข้ามปี
“กระแสเจ้าแม่ตะเคียนที่กาฬ-สินธุ์ยังแร ให้โชคต่อเนื่องมานานกว่าปีคณะศรัทธา นักเสี่ยงโชค จากทุกสารทิศแห่กราบไหว้ไม่ขาดสาย เผยเลขเด็ด ๗๒,๗ มาแรง กาฬสินธุ์ไม่มีขาย ยอดบริจาคเงินในพิธีบวงสรวงลงท้าย ๗๒๕… กระแสความนิยมเรื่องเลขเด็ดลุ้นหวยเบอร์ และความเชื่อด้านโชคลาภของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ และประชาชนทั่วไปยังคงมีอยู่อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะในช่วงใกล้วันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ จึงมีชาวบ้านและเหล่าบรรดานักเสี่ยงใชค ต่งนำดอกไม้ ภูปเทียนไปบวง-สรวง เซ่นไหว้กันเป็นจำนวนมาก อย่างเซ่นที่วัดบ้านท่าสมัคคี บ้านท่าสามัคคี ตำบลจ้าท่า อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาพิสินธุ์
หลังจากที่ผู้เขียนได้เดินทางไปที่วัดท่ากลาง บ้านากลาง ตำบลเจ้าท่า อำ-เภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อไปเฝ้าดูและเก็บบรรยากาศของผู้คนเป็นจำนวนมากที่พากันแห่เดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภจากเจ้าแม่ตะเคียน ๓ นาง ซึ่งเป็นต้นตะ-เคียน ๓ ต้น มีต้นหนึ่งมีลักษณะโค้งงอลักษณะคล้ายพญานาค ตามสายตาและความเชื่อของชาวบ้านตามที่ผู้เขียนได้นำเสนอไปแล้วนั้น ซึ่งก่อนกลับออกจากวัดท่า-กลาง ก็ได้ทราบจากชาวบ้านท่านหนึ่งว่าที่บ้านท่าสามัคคี ซึ่งเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่ง อยู่ห่างจากหมู่บ้านท่ากลางออกไปประมาณ๔-๕ กิโลเมตร มีต้นตะเคียนที่ให้โชคลาภได้อย่างแม่นยำต่อเนื่อง กันมาเป็นเวลากว่าปีมาแล้ว โดยต้นตะเคียนทั้ง ๒ ต้นนี้มีเจ้าแม่ตะเคียนสิงสถิตอยู่ถึง ๒ นางด้วยกัน
โดยชาวบ้านเรียกนามว่า “เจ้าแม่ตะคียแกอง” กับ “เจ้าแม่ตะคียนทิน” ซึ่งทั้ง๒ นางนี้เป็นเจ้าแม่ตะเคียนสองพี่น้อง ตั้งอยู่ที่วัดท่าสามัคคี บ้านท่าสามัคคี ตำบลเจ้าท่าอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อทราบเช่นนั้น แล้วจะอยู่ทำไมเล่าครับ ผู้เขียนรีบบอกให้คนขับรถ ที่ผู้เขียนได้เหมามาจากตัวอำเภอให้พาไปที่วัดท่าสามัคคี เพื่อเก็บเรื่องราวของเจ้าแม่ตะเคียนสองพี่น้องที่เขาร่ำลือกันว่าให้โชคลาภ ได้แม่นยำต่อเนื่องมากว่าปีแล้ว
เมื่อผู้เขียนเดินทางถึงวัดท่าสามัคคี พบว่าบรรยากาศที่วัดมีความคล้ายใกล้เคียงกับที่วัดท่ากลาง คือมีประชาชนจากทุกสารทิศ จับกลุ่มเป็นครอบครัว เป็นหมู่คณะมากราบไหว้ขอโชค ไม้ตะเคียน ๒ต้น ที่เชื่อว่าเป็นที่สถิตของ “เจ้าแม่ตะเคียนทอง” และ “เจ้าแม่ตะเคียนหิน” ซึ่งทั้ง ๒มีอายุ ๓๐๐ ปี อย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงสายๆ ของวันนี้ โดยเฉพาะวันนี้ที่เป็นวันหยุด ทั้งนี้ทางคณะกรรมการหมู่-บ้าน และทาง อบต. เจ้าท่า ได้จัดกำลังเจ้า-หน้าที่ อุปพร. คอยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย พร้อมระวังมิจฉาชีพที่มาแอบแฝงอย่างเข้มงวด ด้านกรรมการวัดเผยเลขลับ ๗๒-๗๕ รวมถึงเลขท้าย ๓ตัว ๗๒ะ ที่มีการร่ำลือกันว่ากำลังมาแรงตามแผงลอตเตอรี่ต่างๆ ไม่มีขาย
จากคำบอกเล่าของกรรมการวัดเล่าว่าเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำ และกู้ภัยเมตตารรรมกาฬสินธุ์ พบตันตะเคียน อายุกว่า๓๐๐ ปี จมอยู่ในแม่น้ำชี บริเวณสะพานข้ามลำน้ำซี ถนนสายกมลาไสยรอยเอ็ดตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนจะใช้รถครนดึงขึ้นจากน้ำ นำมาเก็บรักษาไว้ ที่วัดทสามัคคี บ้านท่าสามัคคีตำบลเจ้าท่า จำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยชาวบ้านต่างนำดอกไม้ ธูปเทียน มากราบไหว้ขอโชคเพื่อความเป็นสิริ_มงคล และนำแป้งมาทา เพื่อขอลุ้นหวย ขอใชคลาภ จากนั้นได้มีการทำพิธีบวงสรวงเพื่อความเป็นสิริมงคล และขอโชคลาภ เนื่อง-จากมีความเชื่อว่ามีเจ้าแม่ตะเคียนที่ชื่อว่า”จ้าแม่ตะเคียนทอง” และ “เจ้าแม่ตะเคียนหิน” ซึ่งเป็นพี่น้องกัน และเจ้าแม่ทั้ง ๒ นางมีอายุ ๓๐๐ ปี ได้สิงสถิตอยู่ ในตันตะเคียนทั้ง ๒ ตน
“นายธีรพร จันทร์คำจร” อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านทกลาง หมู่ที่ ๘ ตำบลเจ้าห่ อำเภอกมลาไสย จังหวัดคาฟิสินธุ์ กรรมการวัดบ้านท่าสามัคคี กล่าวว่าตั้งแต่วันที่๒๒ เมษายน ๒๕๖๒ ที่ขุดพบ และอัญเชิญเจ้าแม่ตะเคียนทอง และเจ้าแม่ตะเคียนหินต้นตะเคียน ต้น มาเก็บรักษาภายในวัดเป็นต้นมา มีประชาชนจำนวมาก หลั่งไหลมากราบไหว้ ขอโชค ตามความเชื่อไม่ขาดสาย นับจากวันแรกที่ทำพิธีบวงสรวง ขอขมาสรงน้ำ ขอโชค ขอลาภ เหล่านี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งตนก็จะคอยประกาศบอกให้ปฏิบัติตนในทางที่ถูกต้อง เหมาะสม ไม่ลบ-หลู่ดูหมิ่น และยืนยันไม่ใช่ความเชื่องมงายเพราะความเชื่อด้านความศักดิ์สิทธิ์ หรือในเรื่องของไสยศาสตร์ จิตวิญญาณ เป็นความเชื่อที่ปลูกฝังในหมู่คนไทยมาตั้งแต่โบราณเพียงแต่ต้องใช้วิจารณญาณในการเชื่ออย่างมีสติ
นายธีรพร ยังกล่าวอีกว่าสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากตงจังหวัด หรือต่างอำเภอที่รู้ข่าวจากสื่อโซเชียล ก็จเข้ามาสอบถามความเป็นมาของเจ้าแม่ตะเคียนสองพี่น้องกับตนว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องจัดฉาก
หรือสร้างสถานการณ์ ส่วนบุคคลที่มากราบไหว้ก็มาด้วยความสมัครใจ และอยากพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นเรื่องปกติของผู้ที่มีความนิยมในด้านการเสี่ยงดวง ไม่ต่างกับที่มีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันในพื้นที่อื่นก็จะมีการแตกตื่นไปกราบไหว้ สักการะ ส่วนที่ใครจะสมหวัง หรืออย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในส่วนที่สอบถามกันมามากว่า เลขเด็ดลุ้นหวยเบอร์ที่ได้จากการมากราบไหว้ขอกับเจ้าแม่ตะเคียนทั้ง ๒ นั้น เท่าที่ทราบได้กันหลายตัว ตามที่รู้กัน คือได้จากหมายเลขที่ตันตะเคียน ซึ่งเลขเด็ดในงวดนี้ ที่ชาวบ้านและนักเสี่ยงโชค ได้เห็นตรงกัน คือ ๗๒, ๗๕,๗๐๕, และ ๗๒๕ เป็นต้น
และตัวเลขอีกกลุ่มหนึ่งที่มีคนบอกว่าจะนำไปเสี่ยงโชคจะเป็นตัวเลขเกี่ยวกับต้นตะเคียน ที่วัดรอบใดนตันได้ ๒ เมตร ยาว๑๕ เมตร คือเลขเด็ด ๒๑๕ หรือยอดเงินบริจาครวม มีเลขลงท้ายเป็น ๗๒๕ รวมทั้งที่
ส่องหาจากการโรยแป้ง ตามลำต้นตะเคียนเสียงกระซิบจากโลกวิญญาณผู้เขียนได้ดูรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ที่ผู้ร่วมรายการเป็นคุณหมอ (ชาย) ท่านได้สูญเสียภรรยาพร้อมบุตรในครรภ์ ที่โรงพยาบาลใหญ่
ขณะที่คุณหมอกำลังให้สัมภาษณ์พูดคุยกับพิธีกร ได้มีเสียงผู้หญิงสะอื้นเบาๆแต่คล้ยผู้ที่หมดแรง ใกล้ที่จะหมดลมหายใจ ได้แว่วดังขณะการพูดคุยของคุณหมอผู้เป็นสามี ทั้งสองซวงรายการ เมื่อจบรายการ
ท่านผู้ชมได้คอมเมนท์ในรูปแบบต่างๆ บ้างก็ว่าเป็นเสียงของเก้าอี้ที่ดัง บ้างก็ว่าอาจเป็นเสียงคลื่นแทรก และเลยล้ำไปถึงโลกของวิญญาณ ซึ่งความคิดเห็นส่วนตัว ผู้เขียนเชื่อในข้อหลัง เนื่องจากมีประสบการณ์กับตนเองถึงสองครั้งสองคราว
เรื่องแรกเป็นเรื่องของลูกสะใภ้ (คนแรก) ของลูกชายคนโต ขอสมมติเรียกน้องวด ซึ่งน้องดานี้ได้คบหากับลูกชายผู้เขียนตั้งแต่อยู่ชั้น ม.๖ จนเรียนจบระดับมหาวิท-ยาลัย มีงานทำด้วยกันทั้งสองฝ่าย โดยตัว
ของดานั้นเป็นฝ่ายบัญชีของบริษัทรถยนต์แห่งใหญ่ ส่วนลูกชายผู้เขียนรับราชการทหารชั้นประทวน ซึ่งระดับนี้มักมีเรื่องดื่มเรื่องกินเที่ยวได้ทุกวัน เนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.๕๔-๕๕ ลูกชายยังอยู่บ้านพักทหาร
จากสาเหตุดังกล่าว ทำให้ลูกชายกับลูกสะใภ้มักมีเรื่องให้ต้องทะเลาะกันแทบทุกวัน ปัญหาน้อยบ้าง ปัญหาใหญ่บ้าง มีเรื่องให้ถกเถียงอยู่ตลอด ไม่พันที่ผู้เขียนต้องเป็นผู้ตามเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้จบ
กระทั่งถึงต้นปี พ.ศ.๖๒ วันขึ้นปีใหม่ ลูกชายและลูกสะใภ้ได้ทะเลาะกันหนักมาก ด้วยเรื่องเดิมๆ คือเขาติดเพื่อน ประเภทเฮไหนเฮนั่น แถบภาคเหนือ(แต่ถึงเวลาทำงาน ไม่เคยลา) โดยเหตุการณ์นั้น ลูกสะใภ้ต้องการไปนับเคาท์ดาวน์กับลูกชายตามลำพัง แต่ลูกยังติดอยู่ในงานเลี้ยของบ้านพักทหาร และด้วยความโกรธที่แฟนตัวเองยังอยู่กับเพื่อนโดยไม่คิดถึความรู้สึกของคนเป็นแฟน น้องคาจึงหุนหันพลันแล่น ขับรถออกจากบ้านพัก เธอหายไปราว ๓ คืน หลังจากคืนนั้นซึ่งทั้งคุณแม่ของน้อง และบุตรชายผู้เขียนได้ประกาศออกตามหา
ต่อมาชาวบ้านในเขตอีกอำเภอหนึ่งได้ออกทอดแหหาปลา พบหลังคารถยนต์ที่จมน้ำอยู่ปริ่มๆ เพราะน้ำเริ่มลด ปรากฏน้องดาอยู่ในรถมรณะคันดังกล่าว และจากเหตุการณ์เสียชีวิตของน้องคาผ่านไป ลูกชายผู้-
เขียนได้ใช้ชีวิตเปลี่ยนเป็นคนละคน คือเลิกดื่มเหล้า วันว่างก็อ่านหนังสือพระ เปลี่ยนอุปนิสัยไปในทางนี้
หากในส่วนของผู้เขียน จากประ-สบการณ์ที่คิดว่าเจอเสียงของผู้ที่จากไปมีดังนี้ค่ะ ย้อนกลับไปถึงเวลานั้นหลังจากที่ฌาปนกิจร่างน้องดาผ่านไป ๑-๒ วัน ความที่ผู้เขียนเกรงลูกชายจะคิดมาก จึงพยายามโทรศัพท์พูดคุยกับเขา เข้า-กลางวัน-เย็น และก่อนนอน พยา-ยามพร่ำสอนเขาให้ละเลิกอบายมุข เพราะ
คือสาเหตุของการทะเลาะกัน หากขณะที่คุยๆ โทรศัพท์อยู่นั้น เริ่มได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ สะอื้นเบาๆ แทรกมาเป็นระยะๆคราวแรกก็คิดว่าหูตัวเองเพี้ยนไป และไม่กล้าถามอะไรกับลูก หากพอได้ยินบ่อยเข้าขณะที่พูดดุใกรศัพท์กับลูกชาย จึงถามออกไป
“หนูอยู่กับใคร?”ซึ่งลูกชายตอบ เขาอยู่คนเดียวที่บ้านพัก ผู้เขียนจึงถามต่อ”และวันที่ผ่านๆ มา มีผู้หญิงได้มาบ้านบ้างรึเปล่า?”เขาตอบว่าไม่มีหรอกครับแม่ หากมีเพียง โสภิดา ที่อยู่ข้างๆ เขาตลอดเวลาไม่ได้ไปไหน ซึ่งโสภิดาคือชื่อเต็มของแฟนขาที่เพิ่งเสียชีวิตไป ทั้งนี้จึงเปิดใจเล่าในสิ่งที่ได้ยินตลอดเวลาการพูดคุยโทรศัพท์ให้ลูกชายฟัง และคำตอบของลูกนั้นคือ”ดาเค้าอยู่กับผมแทบจะตลอดเวลาดรับแม่ บางครั้งเป็นเสียงหัวเราะ เป็นเสียงร้องไห้ที่ข้างหู หากคุยโทรศัพท์กับใครทุกคนพูดเหมือนแม่ว่าได้ยิน!”
เมื่อถามกับลูกชายว่า กลัวใสภิดาหรือเปล่า…เขาให้คำตอบ”ตอนวันสองวันแรกเมื่อรู้ว่าเค้าจากไป เสียงของดาทุกอย่างได้อยู่ในหัวผมซึ่งผมจะกลัวไปทำไมครับ…ดีเสียอีก ที่ผมจะรู้ถึงความไม่ให้ตัวเองประมาท เพราะความตายนั้นอยู่แค่เอื้อม? คนกับฝีมีเส้นแบ่งโลกวิญญาณแค่เพียงนิดเดียว เมื่อเราคิดถึงเขาต่างคนต่างคิดถึงกัน ก็จะสื่อสารกันได้ครับ”ในส่วนของลูกชายนั้น มาจนทุกวันนี้เกือบสองปีแล้ว ทุกครั้งที่ฉันโทรศัพท์ไปพูดคุยกับลูก ก็จะได้ยินเสียงคนถอนหายใจ..บางคราวเป็นเสียงหัวเราะ หรือร้องไห้สะอื้นให้ได้ยินเบาๆ และต้องขอตอกย้ำว่าทุกครั้งค่ะ
เรื่องต่อมาเป็นเรื่องของสามี เพื่อนสนิทผู้เขียนที่เสียชีวิต เขาถูกลอบยิง ดยมาเสียชีวิตที่ไรงพยาบาล ที่ผู้เขียนปฏิบัติงานในขณะนั้น (ปี พ.ศ.๒๕๓๕) ทั้งนี้ช่วงการปฏิบัติในห้องฝ่ตัด ที่ผู้เขียนทำงานอยู่ในเวรบ่าย-ตึก ได้มีการแจ้งเปิดห้อง OR, เพื่อทำการผ่ตัด นำลูกกระสุนออกจากชายวัยกลางคน ซึ่งกระสุนได้เข้าจุดสำคัญคือบริ-เวณท้ายทอย
เมื่อดูชื่อ-นามสกุลของผู้บาดเจ็บสาห้ จึงหาเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนผู้เป็นภรรยา ซึ่งสมัยนั้นยังใช้เบอร์บ้านอยู่ ทว่าที่บ้านเพื่อนคนดังกล่าว เด็กรับใช้บอก คณเอื้อมพรได้ออกไปโรงพยาบาลแล้ว การผ่าตัดเริ่มขึ้นในเวลา ๒๑,๐ น ผ่านไปราว ๑ชั่วไมง ผู้บาดเจ็บเกิดแอคซิเดน เพราะเสียเลือดมาก และก่อนที่เขาจะเสียชีวิต สายซัดชั่นได้ดูดเสมหะที่ออกมาเป็นเลือดไม่ทันแล้ว เขากรนคร่อกๆๆ สามครั้ง ทุกอย่างได้ดรอปลง
เขาเสียชีวิตอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลผู้เขียนนี่ล่ะค่ะ! หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา แม้งานศพจะผ่านไป จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากไกรศัพท์บ้าน เปลี่ยนแปลงไปเป็นโทรศัพท์มือถือส่วนตัวทุกครั้งที่ผู้เขียนไกรศัพท์พูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกับเอื้อมพร มักได้ยินเสียงคนเสลดลำคอแทรกเข้ามาไม่มากก็น้อย!
ต่อมาผู้เขียนจึงขออนุญาตถามเพื่อนว่า ๒ กว่าปีที่ผ่านไป คุณสามีของเพื่อนยังไม่ไปไหนล่ะหรือ? เพื่อนให้คำตอบ”เพราะทางตำรวจยังจับคนยิงเค้าไม่ใดีไง ทั้งที่รู้ว่าใครเป็นคนยิง แต่ไม่รู้อะไรบังหู บังตาอยู่ กระทั่งทุกวันนี้ แมัดตีหมดอายุความ แต่วิญญาณของแฟนคงวนเวียนอยู่กับเรา เชื่อว่าเค้าคงรอคอยความยุติธรรมจากตำรวจ
ซึ่งตอนตาย เค้าตายอย่างทรมานจิตยังยืดติดอยู่กับความเจ็บปวด และเสียงที่คุณได้ยินผ่านทางไกรศัพท์…เป็นเสียงครีดคราดๆ นั้น คนสนิทของเราหลายคนได้ยินผ่านไกรศัพท์ค่ะ บางคนถึงกับตั้งคำถาม มีคนหายใจรดตันคอ ใกล้ๆ หรืออย่างไร?หายใจเสียงดังเชียว ฟังดูนกลัว!หากเมื่อพูดตอบไป “คงเป็นสามี
ที่ตายไป เขาไม่ได้ไปไหน”ญาติๆ ถึงกับเอ่ยปาก”พอก่อน ไม่เอาละ ไม่คุย”แม้คุณเอื้อมพรจะคุยไป อมยิ้มไปในตอนนี้ แต่แววตาของเธอนั้นเศร้านัก โดยเฉพาะคนเป็นที่ยังมีลมหายใจ เธอไม่รู้ว่าจะช่วยดวงวิญญาณของสามีให้พันทุกข์ได้อย่างไร นับว่าคนเป็นมีความทุกข์กาย ทุกข์ใจมาก